แชร์ประสบการณ์ “เมื่อฉันอยากเปลี่ยนหมอจัดฟัน…”
วันนี้หมอมีเรื่องราวนิดๆหน่อยอยากจะมาแบ่งปันเป็นประสบการณ์กัน ไม่ใช่เรื่องราวของหมอหรอกค่ะ แต่พอดีว่าหมอไปเจอกระทู้ๆนึงในพันทิป(อีกแล้ว) เป็นกระทู้ที่ผู้หญิงคนหนึ่งมาเขียนขอคำปรึกษา ว่าเธอจัดฟันแต่ต้องการย้ายคลีนิค จะทำอย่างไรดี?
หมอชอบอ่านกระทู้คำถามที่เกี่ยวกับการทำฟันอยู่แล้ว ด้วยความที่มันเป็นอาชีพของเรา และพอเจอกระทู้ที่น่าสนใจ หมอก็จะเอามาแชร์
และกระทู้ที่หมอว่านี้ ก็เชื่อว่าใครหลายๆคนอาจจะกำลังประสบอยู่เหมือนกัน กับการที่เรารักษาฟันอยู่ที่คลินิค หรือโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง ทั้งจัดฟันแล้วก็เคสอื่นๆค้างคาอยู่ แต่อยู่ๆเกิดมีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่แฮปปี้ ก็อยากจะย้าย ทำให้รู้สึกกลุ้มใจกันตามๆกัน เพราะเรายังมีเคสอยู่ จะย้ายทีก็กลัวขาดช่วงบ้างอะไรบ้าง แถมยังมีเรื่องค่าใช้จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
จากกระทู้นี้ อาจจะพอสรุปได้คร่าวๆว่า…
สาเหตุหลักๆที่ทำให้คนไข้อยากย้ายคลีนิค/โรงพยาบาล
– เวลาที่หมอฟันนัดไม่มีความแน่นอน นัดแล้วไม่เป็นนัด ทำให้คนไข้เสียทั้งเวลา และค่าเดินทาง
– หมอฟันมีกระบวนการที่ไม่พิถีพิถันพอ ทำให้คนไข้รู้สึกไม่ค่อยเชื่อใจ
– มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย
– รู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับหมอฟัน และสภาพแวดล้อมโดยรอบ
…และคำถามที่ตามมา ก็จะเป็นว่า “จะย้ายยังไงดี?” “จะไปที่ไหนดี?” “แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายจะทำยังไงดี?”
เรื่องจะย้ายไปคลีนิค หรือโรงพยาบาลไหนดี อันนี้หมอคงคิดแทนไม่ได้ เพราะแต่ละคนจะถูกใจ หรือรู้สึกโอเคกับแต่ละที่ไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นในเรื่องของการโอนเคส จากที่เดิมไปที่ใหม่ อันนี้หมอแนะนำได้ค่ะ
สำหรับคนที่จัดฟันอยู่ กำลังจะย้ายเคสไปที่ใหม่ อย่างแรกเลยนะคะคือต้องมีเอกสารประวัติทันตกรรมของเราจากที่เก่าก่อน ว่าทำอะไรยังไงบ้าง ทำที่ไหน ทำเพราะอะไร เป็นต้น หลังจากนั้นก็หาที่ใหม่ที่ถูกใจ แต่หมอต้องบอกก่อนเลยว่า การจะหาที่ใหม่ ที่หมอฟันจะมารับเคสต่อ คือทำต่อเหมือนกดปุ่ม Resume บนรีโมท อันนี้อาจจะหายากนะคะ เพราะหมอฟันบางคนอาจจะถือเป็นจรรยาบรรณ ไม่อยากทำต่อ เพราะเหมือนกับเป็นการไปยุ่มย่ามคนไข้ บางคนคิดอย่างนี้จริงๆ แต่ถ้าลองสอบถามแล้วเจอคำตอบแบบนี้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ทำต่อไม่ได้ แต่มาเริ่มต้นนับ 0 ใหม่ได้ คือต้องรื้อของเก่าที่จัดไว้ออกให้หมดก่อน แล้วมาจัดใหม่ตั้งแต่แรกเลย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรจะรู้ก่อนคิดเปลี่ยนที่จัดฟันใหม่ คือหมอฟันแต่ละคนจะมีเทคนิคการจัดฟันที่แตกต่างกันไป ลักษณะอุปกรณ์ก็อาจไม่เหมือนกันด้วย ก็ลองศึกษา ดูลาดเลา ให้ดีก่อน ถามจากคนรู้จักหรือคนที่เคยใช้บริการด้วยก็ดี พอถึงเวลารักษาจริงจะได้ไม่ตกใจว่าทำไมลักษณะการรักษาไม่เหมือนที่เก่า
ถ้าเอาเอกสารจากที่เก่าให้หมอฟันที่ใหม่ดู ว่าเราเคยทำอะไรไปแล้วบ้าง ก็ จะช่วยให้แผนการรักษาต่อเนื่องจากของเดิมมากขึ้นค่ะ
สำหรับ dentalpoint pattaya clinic ถ้าต้องการย้ายเคส ต้องเข้ามาปรึกษาตรวจฟัน กับหมอก่อนค่ะ
จะได้ ทราบระยะเวลา คร่าวๆ และค่าใช้จ่ายก่อน
ส่วนใหญ่ ครั้งแรกจะตรวจ พูดคุย พิมพ์ฟัน ถ่ายรูป และ อาจเอกซเรย์เพิ่มเติมด้วยค่ะ. ค่าใช้จ่าย วันแรก ประมาณ 2-3000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่ละเคสไม่เหมือนกัน สามารถสอบถามได้ ใน วันทีมาตรวจได้เลยค่ะ
ที่มา :
https://www.beecroftortho.com/changing-orthodontists-active-treatment/
https://pantip.com/topic/30052982
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
_________________
Website:
www.dppattaya.com
_________________
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน