EF LINE อุปกรณ์ที่มีหน้าตาคล้ายกับ “ฟันยาง” ซึ่งอย่างที่เราพอจะทราบกันอยู่แล้วนะคะว่า ฟันยาง มักจะใช้ในการครอบคลุมฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเกิดความเสียหาย แตกหัก หรือป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับปากและฟัน เช่น การกัดริมฝีปาก นอนกัดฟัน รวมไปถึงถูกใช้ในกีฬาที่มีการประทะรุนแรง เช่น ชกมวย ฟุตบอล ฟุตซอล หรือรักบี้
แน่นอนว่าหากเป็นฟันยางปกติทั่วไป หลาย ๆ คนก็คงคุ้นเคยกับมัน หรือได้ลองใช้กันมาบ้างแล้วนะคะ แต่จะเป็นอย่างไร เมื่อ Ef Line อุปกรณ์คล้ายฟันยางที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ถูกนำมาใช้ใน “การจัดฟันสำหรับเด็กเล็ก”
หัวข้อย่อย
จัดฟันสำหรับเด็กเล็ก
เมื่อเราพูดถึง การจัดฟัน หลายคนคงจะมีภาพจินตนาการอยู่ในหัวอยู่แล้วนะคะว่า สามารถทำได้เฉพาะในวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่เท่านั้น ซึ่งจะมีน้อยมาก ๆ ที่จะนึกถึงการจัดฟันในเด็กเป็นอันดับแรก ๆ
แต่ในวันนี้ เด็นทัลพอยท์คลินิก จะพามาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันใหม่อีกครั้งค่ะ เพราะในปัจจุบัน เด็กเล็ก ที่มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบ – 15 ปี สามารถจัดฟันได้แล้วค่ะ เพียงแต่อาจจะยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายคน แต่รับรองว่าถ้าเราได้รู้จักเครื่องมือจัดฟันสำหรับเด็กเล็กอันนี้แล้ว จะช่วยคลายความกังวลว่าถ้าลูกโตไปแล้ว จะมีฟันที่เรียงตัวไม่สวยหรือเปล่า หรือว่าจะมีโครงหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนเท่าที่ควรไหม เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องจัดเรียงฟันแล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วยค่ะ
Ef Line คือ อะไร ?
เป็น ชุดเครื่องมือทางทันตกรรม ที่สามารถแก้ไขปัญหาการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้อ โดยจะช่วยปรับตำแหน่งลิ้นและฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็น เครื่องมือปรับการสบฟันเด็ก ซึ่งถูกออกแบบมาให้แก้ปัญหาที่หลากหลายในเด็กเล็ก เช่น ลิ้นดุนฟันขณะกลืน ชอบหายใจทางปาก ใช้ฟันกัดปาก ดูดปาก ตลอดจนช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูกใบหน้าและขากรรไกร อันเกิดจากพฤติกรรมที่ทำจนเกิดความเคยชิน เช่น เลิกขวดนมช้า ชอบดูดนิ้ว กัดเล็บ หรือนั่งท้าวคาง นั่นเองค่ะ
พฤติกรรมที่ยกตัวอย่างไปแล้วนี้ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที โอกาสที่จะส่งผลเสียในระยะยาวก็มีมากตามไปด้วยนะคะ และเมื่อลูกเติบโตขึ้น ก็จะทำให้มีการสบฟันที่ผิดปกติไป
สบฟันผิดปกติ เป็นยังไง ?
การเรียงตัวของฟัน มักมีความเกี่ยวข้องกับการสบฟันโดยตรงนะคะ ซึ่ง การสบฟัน ก็คือ การที่ฟันบนและฟันล่างเคลื่อนเข้าหากันจนสัมผัสกัน ทั้งการบดเคี้ยวอาหาร หรือการกัดฟันในท่าพัก ซึ่งเด็กบางคนจะมีฟันที่เรียงตัวผิดปกติ แทนที่จะเรียงตัวสวยงามเป็นเม็ดข้าวโพด มักเป็นผลมาจากพันธุกรรม และพฤติกรรมที่มักจะทำอยู่เป็นประจำ เช่น
- การกลืนผิดปกติ
- ดูดนิ้วมือ ดูดจุกขวดนม
- เอาลิ้นมาดุนฟัน
- เลิกขวดนมช้า
- กัดเล็บ
- หายใจทางปาก
- ฟันน้ำนมหลุดเร็วหรือช้ากว่าปกติ
- ไม่ชอบแปรงฟัน จนทำให้เกิดฟันผุ
ผลเสียที่เกิดจาก การสบฟันผิดปกติ
- ฟันห่าง (ฟันไม่เรียงชิดกัน มีช่องว่างระหว่างฟันมาก)
- ฟันล่างสบคร่อมฟันบน (ฟันล่างยื่นออกมามากจนคร่อมฟัน)
- ฟันสบลึก (ฟันบนหน้าปิดฟันล่าง ทำให้เวลายิ้มแล้วไม่เห็นฟันล่าง)
- ฟันสบเปิด (เมื่อกัดฟัน ฟันบนและฟันล่างปิดไม่สนิท)
เมื่อเกิดการสบฟันที่ผิดปกติแล้ว ปัญหาที่ตามมา คือ พูดออกเสียงไม่ชัดเจน เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด จนกระทั่งส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารที่ต้องทำงานหนักขึ้น ในบางรายอาจเกิดภาวะขาดสารอาหารได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังส่งผลไปถึงโครงสร้างของใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน เช่น คางหลุบ คางถอย คางเบี้ยว กระดูกและฟันบนยื่น หน้าสั้น และหน้าเบี้ยว เป็นต้น
มาฟัง ‘หมอหลิน เด็นทัลพอยท์’ อธิบายเกี่ยวกับผลเสียจากการกลืนที่ผิดปกติกันค่ะ
คำเตือนจากหมอฟัน กลืนผิด = ชีวิตเปลี่ยน
อวัยวะที่สำคัญของการกลืน คือ “ลิ้น” ซึ่งตำแหน่งของลิ้นจะมีผลต่อการกลืนว่าปกติหรือไม่ปกติได้ โดยสังเกตง่าย ๆ ว่าขณะที่เรากลืน ลิ้นจะแตะอยู่ที่เพดานปากด้านหลังฟันทุกครั้ง โดยที่ลิ้นจะไม่โดนฟันเลยแม้แต่นิดเดียว พฤติกรรมนี้นับว่าเป็นการกลืนที่ถูกต้องค่ะ
แต่ถ้า กลืนผิดวิธี “ลิ้น” จะเคลื่อนมาดันที่ฟันทุกครั้งโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่เว้นแม้การพูดในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเวลาที่เราทานอาหาร หรือดื่มน้ำ ยิ่งเราปล่อยให้ลิ้นดันฟันบ่อย ๆ ประกอบกับแรงดันจากลิ้นที่มีค่อนข้างมาก ก็จะทำให้ฟันยื่นห่างและฟันเกออกมาเรื่อย ๆ จะสังเกตได้ชัดจากคนจัดฟันนาน ๆ เพราะฟันเข้าที่ยากกว่าเคสปกติทั่วไป และเมื่อถอดเหล็กจัดฟันไปแล้ว หากยังมีพฤติกรรมลิ้นดุนฟันอยู่ และไม่ใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอแล้วล่ะก็… จะทำให้ฟันหน้ากลับมายื่นห่างซ้ำได้อีก แล้วต้องจัดฟันหลายรอบค่ะ
สาเหตุของการกลืนผิดวิธี
สาเหตุหลัก ๆ มักจะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเราเด็ก ๆ เพราะบางทีเราอาจจะเคยเป็นคนติดขวดนม ดูดนมนานเกินไป และบางคนอาจจะมีนิสัยชอบดูดนิ้ว ซึ่งเวลาที่เราดูดนมหรือดูดนิ้ว ลิ้นของเราจะดันไปที่ฟันหน้า ทำให้มีนิสัยชอบเอาลิ้นดุนฟันติดมาจนโต
วิธีแก้ ลิ้นดุนฟัน เวลากลืนที่ไม่ถูกต้อง
- แก้ไขพฤติกรรมด้วยตัวเอง
- ใช้เครื่องมือฝึกลิ้น หรือ “EF”
ใช้เครื่องมือฝึกลิ้น Ef ต่างจาก จัดฟันเหล็ก ยังไง ?
เครื่องมือฝึกลิ้น Ef หรือ EF Line นับว่าเป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมที่ล้ำสมัย และได้รับการรองรับจากทันตแพทย์ทั่วโลกว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก สามารถใช้ได้ดีกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 ขวบ – 15 ปี (หรือต่ำกว่านั้น ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของทันตแพทย์) และนับว่าเป็นวัยที่รากฟันกำลังพัฒนา ยิ่งใช้เร็วเท่าไหร่ การรักษาก็จะง่ายขึ้นไปด้วยตามลำดับด้วยค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว การจัดฟันติดแน่น หรือ การจัดฟันเหล็ก จะค่อนข้างมีความซับซ้อนเรื่องการทำความสะอาดและวินัยในการมาหาหมอฟัน ดังนั้น การใช้เครื่องมือที่สามารถถอดออกได้ อย่าง Ef Line จะช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก ถอดทำความสะอาดได้ง่าย และยังเป็นผลดีเรื่องการรักษาที่เป็นผลพลอยได้จากการจัดฟันในลักษณะนี้อีกด้วยค่ะ
คำแนะนำ วิธีใส่ EF Line
- ช่วงกลางวัน ตั้งแต่ตื่นนอน
ควรใส่ให้แนบชิดติดกับฟันต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชั่วโมง โดยไม่ถอดออก คุณพ่อคุณแม่จะต้องคอยหมั่นสังเกต ไม่ให้ลูก ๆ ใช้มือแคะแกะเครื่องมือ ไม่เคี้ยวเล่น และงดการพูดคุยขณะใส่เครื่องมืออยู่ในปาก เพื่อบริหารกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ ปาก และป้องกันไม่ให้เครื่องมือเกิดความเสียหายตามมานะคะ
- ช่วงกลางคืน ตั้งแต่ก่อนเข้านอน
ควรใส่ให้แนบชิดติดกับฟันต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ชั่วโมง โดยไม่ถอดออก ในช่วงนี้จะไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับการใส่ในตอนกลางวันนะคะ เพราะเป็นช่วงที่เด็กกำลังหลับ เวลาที่เขางอแงไม่อยากใส่ก็จะน้อยตามไปด้วยค่ะ
ในช่วงแรกเด็ก ๆ จะมีอาการระคายเคืองบ้าง หรือมีแผลในช่องปากบ้าง จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการปรับตัว ในช่วงนี้เด็ก ๆ จะร้องไห้งอแงไม่อยากใส่บ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าอยู่ในปาก ก็ย่อมรู้สึกรำคาญ ไม่สบายตัวเป็นปกติค่ะ คุณพ่อคุณแม่จะต้องพยายามหักห้ามใจ ไม่ใจอ่อนเด็ดขาดเลยนะคะ ให้ท่องไว้ในใจเลยว่า “เพื่อฟันสวย ๆ ของลูก เพื่อใบหน้าสวย ๆ ของลูก” และเมื่อเขาคุ้นชินกับเครื่องมือนี้แล้ว อาการเหล่านี้จะหายไปเองค่ะ
ฟันเด็ก แบบไหน ? ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาไปจัดฟัน
-
สบฟันผิดปกติ
เมื่อลูกมีฟันในลักษณะที่เรียงตัวผิดปกติ เช่น ฟันซ้อนเก ฟันสบเปิด ฟันเหยิน เวลาที่ลูกทานอาหารจะทำให้เคี้ยวข้าวไม่ละเอียด ระบบย่อยอาหารจะทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้ลูกขาดสารอาหารได้ค่ะ
-
ฟันหน้ายื่น
เมื่อลูกมีลักษณะฟันที่ยื่นเหยินออกมาผิดปกติ เวลาที่ลูกทำกิจกรรมที่โลดโผน ก็อาจเกิดการกระแทกจนฟันหักได้นะคะ
-
มีช่องว่างระหว่างฟันมาก หรือ ฟันห่าง
ลักษณะฟันน้ำนมที่ห่างนั้นปกติ แต่ถ้าฟันแท้ขึ้นครบแล้วแต่ฟันยังห่าง ควรปรึกษาทันตแพทย์ จัดฟันค่ะ
-
ขากรรไกรผิดปกติ
มักส่งผลต่อรูปหน้าของเด็กโดยตรงค่ะ หากไม่ได้รับการรักษาก็จะทำให้โครงสร้างหน้าไม่ได้สัดส่วน ดูเบี้ยวกว่าปกตินั่นเอง
จัดฟันในเด็ก สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือตั้งแต่ 6 ขวบเป็นต้นไป ซึ่งมีข้อดีก็คือ สามารถเคลื่อนฟันได้ง่ายกว่าวัยที่หยุดการเจริญเติบโตไปแล้วนั่นเองค่ะ การจัดฟันที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ มีชื่อเรียกว่า “Ef Line” วิธีนี้จะช่วยปรับโครงสร้างกระดูกใบหน้าและการเรียงตัวของฟัน เช่น ฟันล่างสบคร่อมฟันบน ฟันสบลึก หรือฟันสบเปิด ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดนิสัยที่ผิดปกติ เพื่อให้การเจริญเติบโตของขากรรไกรและใบหน้าของเด็ก ๆ เป็นไปอย่างปกติได้อีกด้วยค่ะ
เคล็ดลับดูแลสุขภาพช่องปาก
- คำแนะนำเรื่องการจัดฟันสำหรับเด็ก
- สัญญาณเตือน ว่าลูกของคุณ(อาจ)ต้องใส่ลวดดัดฟันแล้วล่ะ!
- สงสัยไหม ฟันลูกเป็นแบบนี้ เพราะอะไร ?
- สุดยอดปัญหาที่หมอฟันเด็ก(Pediatric Dentist)จะต้องเจออยู่บ่อยๆ
- ถ้าไม่ใส่.. ฟันปลอมทดแทน จะเกิดอะไรขึ้น?
ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT (คลิก)
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน