การจัดฟัน เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่คนไทยนิยมมากที่สุดในการทำฟันเลยค่ะ
เรามาอ่านข้อมูลที่จำเป็น ก่อนที่เราจะเริ่มจัดฟันต้องรู้อะไรบ้างกันค่ะ ในหน้านี้หมอจะมีรายละเอียดเนื้อหา ตามสารบัญด้านล่างนี้ค่ะ น้อง ๆ สามารถคลิกอ่านเนื้อหาที่ต้องการทราบได้เลยจ้า
หัวข้อย่อย
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ การจัดฟัน
การจัดฟัน คืออะไร
จัดฟัน เป็นการรักษาที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่มีปัญหาเรื่องฟัน เช่น มีฟันเกหลายซี่ มีขากรรไกรล่างกับบนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกที่ มีปัญหาฟันยื่น และฟันขบกันได้ไม่พอดี ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดผลเสียกับฟันในระยะยาวเพราะทำให้ทำความสะอาดได้ยาก และเสี่ยงต่อการสูญเสียฟันก่อนวัยอันควร อันเนื่องมาจากฟันผุและโรคเหงือก ในบางรายอาจเกิดการกดทับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยวและบดอาหาร ซึ่งอาจจะส่งผลต่ออาการปวดศีรษะ ปวดข้อต่อขากรรไกร คอ ไหล่ และหลังได้ นอกจากนี้ยังทำให้เสียบุคลิกภาพอีกด้วยนะคะ
การจัดฟัน เป็นการรักษาที่ต้องใช้เวลารักษาต่อเนื่องหลายปี จึงต้องอาศัยความร่วมมือในการรักษาจากคนไข้อย่างมาก และต้องมีการนัดพบกับทันตแพทย์เดือนละครั้งทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟัน
นอกจากนี้ การดูแลสภาพเหงือกและฟันเป็นเรื่องสำคัญมาก และเป็นหน้าที่ของคนไข้ที่จะต้องดูแลให้มากกว่าปกติ ไม่เช่นนั้นแล้ว จะเกิดปัญหาขึ้นคือ ปัญหาฟันผุ โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหงือก มีอาการเหงือกร่น และฟันโยกจากโรคเหงือก
การจัดฟันมีทั้งหมดกี่แบบ อะไรบ้าง
การจัดฟัน แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ คือ
- จัดฟันแบบติดแน่น หมายถึง เครื่องมือจัดฟันจะอยู่ในปากเลย ไม่สามารถที่จะถอดเข้าถอดออกได้เอง ได้แก่
- จัดฟันด้านนอกแบบเหล็ก หรือแบบ จัดฟันเซรามิคสีเหมือนฟัน
- จัดฟันด้านใน ด้านลิ้น (Lingual Orthodontic)
- จัดฟันแบบ self ligate หรือจะรู้จักกันอีกแบบว่า จัดฟันแบบดามอน (Damon Style)
แต่คุณหมอขอแจ้งไว้ว่า ที่ เด็นทัลพอยท์คลินิก จัดฟันพัทยาของเรา รับจัดฟันแบบติดเหล็กด้านนอก รับจัดฟันสีเหมือนฟันเซรามิค และรับจัดฟันแบบดามอน แต่อย่างเดียวที่ไม่ได้รับทำคือ การจัดฟันด้านในลิ้นค่ะ
อยากทราบราคาจัดฟันแบบต่าง ๆ คลิกเลย
2. จัดฟันแบบถอดได้ หมายถึง เครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดเข้าออกได้เอง มักรู้จักกันดีว่า “ จัดฟันแบบใส ” ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดฟัน ที่ทำจากพลาสติกอย่างดี ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ ได้แก่
- จัดฟันแบบใส clear aligner มักเป็นการจัดฟันที่เคลื่อนฟันเล็กน้อยถึงปานกลาง มักจัดฟันหน้าจนถึงฟันกรามน้อย ยี่ห้อที่นิยมใช้ได้แก่ 3d ortho, Giko smile, clear smile, zenyum
- จัดฟันแบบใสแบบ digital ซึ่งเป็นการจัดฟันแบบใสที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการวางแผนการรักษา โดยสามารถที่จะวางแผนการรักษาจัดฟันได้ทุกซี่ในปาก ทั้งยังสามารถผลิตชิ้นงานจัดฟันใสออกมาทีเดียวได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ยี่ห้อที่รู้จักกันดี คือ Invisalign
สำหรับงานจัดฟันแบบใส ทาง เด็นทัลพอยท์คลินิก พัทยา มีรับจัดฟันแบบใสทุกระบบเลยค่ะ โดยคุณหมอจะเป็นคนตรวจประเมินปัญหาฟันของคนไข้ และจะแนะนำระบบจัดฟันแบบใสที่ได้ผลและประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุดให้คนไข้แต่ละคน เพราะคลินิกเราเน้นให้คนไข้ได้การรักษาที่เหมาะกับตัวเอง และราคาถูกที่สุด คุ้มมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ
อยากทราบราคาจัดฟันแบบใส คลิกเลย
ราคาจัดฟันแบบติดเหล็ก
ราคาจัดฟันแบบเหล็กธรรมดา ราคาประมาณ 20,000 – 50,000 บาท ขึ้นกับความยากง่ายของเคส สำหรับที่ Dental Point Pattaya คลินิกเรา จะเป็นการผ่อนจ่ายไปเรื่อย ๆ เสร็จเมื่อไรก็หยุดจ่ายค่ะ บางเคสปัญหาไม่เยอะ เสร็จเร็ว ราคาก็ประมาณ 15,000 – 25,000 บาทก็มีค่ะ
รายละเอียดการผ่อนจ่าย สำหรับแพคเกจจัดฟันแบบเหล็ก ดังนี้ค่ะ
การจัดฟันแบ่งคร่าว ๆ ได้ 3 ขั้นตอน
- ขั้นตอนแรก : เป็นการวางแผนการรักษา มีค่าใช้จ่าย 2 รายการจ้า
- พิมพ์ปาก 1,050 บาท
- เอกซเรย์ 3 ฟิล์ม 1,300 บาทค่ะ ซึ่งจะเป็นคลินิกที่ contact ไว้ตรงพัทยาใต้ ตั้งอยู่ติดตลาดวัดชัย โดยคนไข้ต้องมาเอาจดหมายส่งตัวที่คลินิกก่อนค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : เป็นการเคลียร์ช่องปาก
อุดขูดถอน ขั้นตอนนี้ต้องให้หมอตรวจก่อนจึงจะทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง ราคาประมาณเท่าไร ซึ่งราคาคร่าว ๆ จะเป็นดังนี้ค่ะ
-
- ขูดหินปูน เริ่มต้น 600 -1,500บาท (ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูนนะ)
- อุดฟันสีขาว เริ่มต้นซี่ละ 600-1,500 บาท
- ถอนฟัน เริ่มต้นซี่ละ 600 -1,500 เช่นกันค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3 : เป็นการติดเหล็ก มีให้เลือกชำระ 4 แบบจ้ะ
- เหมาจ่ายครั้งแรกเลย ที่ติดเครื่องมือ จ่ายครั้งเดียว 35,000 บาท แถมรีเทนเนอร์ 1 คู่ เป็น รีลวดเปลือย หรือ รีแบบใส มูลค่า 3100 บาท
- ชำระเงิน 2 ครั้งแรก ครั้งละ 6,000 บาท จากนั้นจ่ายเดือนละ 800 บาท จนกว่าจะจัดฟันเสร็จ
- ชำระ 3 ครั้งแรก ครั้งละ 4,000 บาท จากนั้นจ่ายเดือนละ 900 บาท จนกว่าจะจัดฟันเสร็จ
- ชำระ 8 ครั้งแรก ครั้งละ 2,000 บาท จากนั้นจ่ายเดือนละ 1,000 บาท จนกว่าจะจัดฟันเสร็จ
ระหว่างจัดฟัน ถ้าเครื่องมือหลุด ติดเครื่องมือใหม่ตัวละ 250 บาท จัดฟันเสร็จแล้วมีทำรีเทนเนอร์ 2 ชิ้นบนล่าง ชิ้นละ 1,700 บาทขึ้นไปแล้วแต่แบบค่ะ (ดูตัวอย่างรีเทนเนอร์ คลิก)
สนใจนัดจองคิวปรึกษา คลิก Line @dppattaya.com
รีวิวจัดฟัน Pantip รีวิวจัดฟันติดเหล็ก จากคนไข้ที่น่ารักของเรา
ราคาจัดฟันแบบใส ต้องจ่ายครั้งแรกเท่าไร
ราคาการจัดฟันแบบใส จะแบ่งออกตามปัญหาของคนไข้ค่ะ มี 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
- ต้องการจัดฟันแบบใส เฉพาะฟันหน้าทั้งฟันบนและล่าง หรือ เฉพาะฟันบน หรือเฉพาะฟันล่าง กรณีนี้ สามารถเลือกชำระทีละสเตปได้ โดยสเตปละ 12,000 บาท สำหรับการจัดฟันบนล่างและสเตปละ 6,000 บาท ถ้าจัดแค่ฟันหน้าบนหรือล่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง
โดยที่ในแต่ละสเตป คนไข้จะได้รับชิ้นงานจัดใส บน 3 ชิ้น ล่าง 3 ชิ้น และใช้เวลาสเตปละไม่เกิน 45 วัน จึงเริ่มจัดสเตปต่อไป
พิเศษ คนไข้ที่เหมาจ่าย ชำระครั้งเดียว ยอด 60,000-80,000 บาท ลดพิเศษ 10%
- คนไข้ที่มีปัญหาฟันค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องจัดฟันทุกซี่ในปาก กรณีนี้ ทางคลินิกจะแนะนำ จัดฟันแบบใสดิจิตัล ยี่ห้อ Invisalign ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีระบบการจัดฟันแบบใสที่สามารถเคลื่อนฟันได้ทั้งปาก โดยที่ทางคลินิกเราจะเลือก (comprehensive package) ซึ่งคนไข้สามารถจัดฟันแบบใสจนเสร็จ โดยไม่จำกัดจำนวนชิ้นงาน ได้นานสูงสุดถึง 5 ปีเลยค่ะ ทั้งนี้ เพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบใส ควบคุมราคาได้ประมาณ 120,000-150,000 บาท
รีวิวจัดฟันใส Pantip คนไข้จัดฟันแบบใสแบบ clear aligner
พิเศษ คนไข้สามารถเลือกผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตกสิกร หรือเลือกชำระครั้งเดียว โดยจะได้รับส่วนลดพิเศษ 10%
ในกรณีที่ต้องการผ่อนจ่ายอย่างอื่น สามารถติดต่อทางคลินิกเป็นพิเศษได้ค่ะ
อยากจัดแบบใส ใช้เวลานานไหม ประเมินราคาก่อนได้ไหม
สำหรับคนไข้ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจัดแบบใส จะใช้เวลานานแค่ไหน สามารถเลือกตรวจประเมินราคา ประเมินจำนวนสเตปที่ต้องใช้ได้ก่อนค่ะ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ถ้าต้องการประเมินการจัดฟันแบบใส เฉพาะฟันหน้า บนล่าง หรือ อย่างใดอย่างหนึ่ง มีค่าพิมพ์ปาก วางแผนการรักษา ครั้งแรก ราคา 3,000 บาท
ถ้าพร้อมชำระค่าจัดฟันแบบใสเลย ราคา 6,000 บาทต่อเดือน สำหรับฟันบนหรือล่าง 12,000 บาทต่อเดือน สำหรับทั้งบนและล่าง ฟรี ค่าวางแผนการรักษา 3,000 บาท
- กรณีเคสยาก ต้องรับการจัดฟันแบบใส Invisalign สำหรับการวางแผนการรักษา พิมพ์ฟัน ถ่ายรูป เอกซเรย์ ค่าใช้จ่ายครั้งแรก 20,000 บาทค่ะ เมื่อฟังแผนการรักษาแล้ว ถ้าตัดสินใจผลิตชิ้นงานจัดฟันแบบใสเลย จะนำ 20,000 บาท ที่ชำระมาครั้งแรกไปหักจากค่ารักษาทั้งหมด
จัดฟันแบบดามอน (Damon) คืออะไร
จัดฟันแบบดามอน หรือ เดมอน (Damon) คือ ยี่ห้อเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นชนิดหนึ่งที่มีฝาเปิด-ปิด ไม่ต้องใช้ยางรัดลวดจัดฟัน บางครั้งเราก็เรียกว่า “self ligate bracket”
ข้อดี : ทำความสะอาดง่าย ใส่ลวดได้ง่ายไม่ต้อง ใช้ยางโอริงรัดฟัน จึงลดโอกาสการสะสมของเชื้อโรคด้วยค่ะ นอกจากนี้ ถ้าคนไข้ทำความสะอาดได้ดีไม่ให้หินปูนเกาะแบรคเกตชนิดนี้ จะช่วยให้ฟันขยับได้ดีขึ้น ฟันเรียบเร็วขึ้นด้วยค่ะ
ข้อเสีย : แบรคเกตชนิดนี้มีราคาสูงกว่าแบรคเกตรุ่นปกติที่ใส่ยาง ถ้าทำหลุดหายไปก็จะมีค่าใช้จ่ายในการติดใหม่ ค่อนข้างสูง
Clip VDO แสดงการเคลื่อนฟันแบบดามอน
ราคาจัดฟันแบบดามอน Damon หรือ Self Ligate
ราคาจัดฟันแบบดามอน หรือ self ligate มีหลายช่วงราคา เพราะ แบรคเกตชนิดฝาเปิดปิด ไม่ได้มีแค่ยี่ห้อดามอน ปัจจุบันมีหลายแบรนด์จากหลาย ๆ ประเทศทำแบรคเกตแบบเดียวกับดามอนออกมาหลายยี่ห้อ ทางเด็นทัลพอยท์ พัทยา คลินิกของเรา จึงมีให้เลือกหลายยี่ห้อที่ให้ผลการรักษาใกล้เคียงกัน ต่างกันที่เนื้อวัสดุเพียงเล็กน้อย มีราคาหลายช่วงราคาดังนี้ค่ะ
- จัดดามอน คิวสีเหล็ก (Damon Q)
ชำระครั้งแรก 25,000
ครั้งที่ 2 -3-4 ครั้งละ 5,000 บาท
ผ่อนเดือนละ 3,000 บาท x 10 งวด ค่ะ
เครื่องมือหลุด มีตัวเก่ากลับมา ตัวละ 500 บาท
กรณี ทำหาย ตัวละ 1,000 บาทค่ะ
- จัดดามอนเคลียร์ สีใส (Damon Clear)
ชำระครั้งแรก 30,000 บาท
ครั้งที่ 2-3-4 -5 ครั้งละ 5,000 บาท
ผ่อนเดือนละ 3,000 บาท x 10 งวด
เครื่องมือหลุด มีตัวเก่ากลับมา ตัวละ 500 บาท
กรณีทำหาย ตัวละ 1,000 บาทค่ะ
จัดคลิปปี้ Clippy (เหมือนดามอน Q แต่เป็นของญี่ปุ่น)
ชำระครั้งแรก 15,000 บาท
ครั้งที่ 2-3-4 -5-6 ครั้งละ 4,000 บาท
ผ่อน เดือนละ 1,500บาท x 10 งวด
เครื่องมือหลุด มีตัวเก่ากลับมา ตัวละ 500 บาท
กรณีทำหาย ตัวละ 800 บาทค่ะ
- จัดคลิปปี้ Clippy Ceramic (เหมือน ดามอนเคลียร์ แต่เป็นของญี่ปุ่น)
ชำระครั้งแรก 25,000 บาท
ครั้งที่ 2-3-4-5 -6 ครั้งละ 4,000 บาท
ผ่อน 2,000 บาท x 10 งวด
เครื่องมือหลุด มีตัวเก่ากลับมา ตัวละ 500 บาท
กรณีทำหาย ตัวละ 1000 บาทค่ะ
- จัดฟันแบบ Self Ligate ดามอน style
ชำระครั้งแรก 15,000 บาท
ครั้งที่ 2-3-4-5-6 ครั้งละ 3,000 บาท
ผ่อนเดือนละ 1,500 บาท x 10 งวด
หลุด ตัวละ 400 บาท ถ้าหายตัวละ 600 บาทค่ะ
- จัดฟันแบบ Self Ligate สีเหมือนฟัน จัดเหล็กไร้ยาง (Damon Style)
ชำระครั้งแรก 20,000 บาท
ครั้งที่ 2-3-4-5-6. ครั้งละ 3,500 บาท
ผ่อน เดือนละ 1,750 บาท x 10 งวด
เครื่องมือหลุด มีตัวเก่ากลับมา ตัวละ 500 บาท
กรณีทำหาย ตัวละ 800 บาทค่ะ
จัดฟันติดเหล็ก ครั้งแรกราคาเท่าไร ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
จัดฟันติดเหล็กครั้งแรก ราคา เท่าไร
จัดฟันติดเหล็กครั้งแรกราคาเท่าไร? สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยจัดฟันมาก่อนอาจจะรู้สึกกังวลว่าราคาจัดฟันจะแพงมั้ย? ควรจะต้องเตรียมงบประมาณเท่าไรถึงจะพอ? ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าในปัจจุบันราคาจัดฟันมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรรค์ตามความสะดวกของคนไข้แต่ละคน
เพราะอย่าง เด็นทัลพอยท์คลินิกของเรา ก็มีโปรแกรมจัดฟันให้เลือกหลากหลายราคาด้วยกัน โดยที่ราคาเริ่มต้นของการจัดฟันติดเหล็กครั้งแรกนั้น จะอยู่ที่ 2,000 บาท 4,000 บาท และ 6,000 บาท ซึ่งคนไข้สามารถเลือกได้ตามงบที่มีอยู่ในใจได้เลยค่ะ (เลือกแพ็คเกจจัดฟันติดเหล็ก)
แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะราคานี้ไม่ใช่ราคาที่เราต้องจ่ายในทุก ๆ เดือน แต่เป็นเพียงแค่ราคาติดเครื่องมือครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งในเดือนต่อ ๆ ไป เราก็จะจ่ายได้ในราคาที่ถูกลงนั่นเองค่ะ
เมื่อเราเลือกแพ็คเกจที่ตรงกับงบที่ตั้งไว้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการเตรียมตัวจัดฟันได้เลยค่ะ
ขั้นตอนเตรียมตัว เมื่อจัดฟันครั้งแรก
ถ้าพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวจัดฟันครั้งแรก หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยจัดฟันมาก่อนก็อาจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะคะ? เพราะเราอาจจะเคยได้ยินมาว่า “จัดฟันปวดมาก” “จัดฟันแล้วทานข้าวลำบาก”
ซึ่งก็ต้องขอบอกเลยนะคะว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่ะ เพราะคนไข้บางเคสอาจรู้สึกตึง ๆ ที่ฟันบ้างเล็กน้อยหรืออาจไม่ปวดฟันเลย แต่สำหรับบางคนก็อาจปวดมากจนแทบทานอะไรไม่ได้ก็มีเหมือนกัน ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะฟันและขากรรไกรของแต่ละคนด้วยนะคะ
ดังนั้น สิ่งแรกที่เราควรมีในขั้นตอนการเตรียมตัวจัดฟันครั้งแรกก็คือ “เตรียมตัว” และ “เตรียมใจ” นั่นเองค่ะ แต่ถ้าเราผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ ขั้นตอนต่อ ๆ ไปของเราก็จะง่ายขึ้นมาก ๆ
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนจัดฟัน
เมื่อเตรียมตัวและเตรียมใจของเราพร้อมแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือ..
- เข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อปรึกษาและตรวจสุขภาพช่องปาก
ในขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจดูความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่องปากของเราว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เช่น ฟันผุไหม มีหินปูนเกาะที่ฟันหรือเปล่า มีฟันคุดที่ต้องผ่าออกหรือไม่ และมีลักษณะการเรียงตัวของฟันเป็นอย่างไร เพื่อเป็นการเตรียมตัวในขั้นตอนต่อไปค่ะ
- พิมพ์ปากและเอ็กซเรย์
เมื่อเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูปัญหาในช่องปากแล้ว ในขั้นตอนนี้จะเป็นการวิเคราะห์โครงสร้างกระดูกใบหน้าและขากรรไกร เพื่อวางแผนในรักษาอย่างละเอียด พร้อมทั้งประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน หากมีคำถามสงสัยหรือต้องการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งกับคุณหมอประจำเคสนั้น ๆ ได้เลยนะคะ เพื่อให้การรักษาของเราเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุดค่ะ
- เคลียร์ปัญหาในช่องปาก
ขั้นตอนนี้ก็จะเป็นการรักษาฟันของเราให้พร้อมก่อนการติดเครื่องมือนั่นเอง เช่น อุดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด บางรายอาจต้องถอนฟัน รักษารากฟัน หรือผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ก็เตรียมตัวติดเครื่องมือจัดฟันได้เลยค่ะ (ดูอัตราค่าบริการ)
- ติดเครื่องมือจัดฟัน
ช่วงแรกอาจจะยังรู้สึกระคายเคืองเพราะยังไม่ค่อยชินกับเครื่องมือจัดฟัน บางเคสอาจรู้สึกปวดและเสียวฟันร่วมด้วย แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะว่าอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในสัปดาห์แรก
หากใครที่กำลังสนใจหรือมีแผนจะจัดฟันเหล็กอยู่แล้ว ก็สามารถเข้ามาพูดคุยหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลินิก Dental Point พัทยา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ค่ะ สนใจนัดจองคิวปรึกษา คลิก Line @dppattaya.com
อยากจัดฟันเสร็จเร็ว ๆ ควรจัดแบบไหน
สำหรับใครที่อยากจัดฟันเสร็จเร็ว ๆ ในระยะเวลาไม่นานหรืออาจไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ ก็ต้องกดถูกใจให้กับสิ่ง ๆ นี้เลยค่ะ นั่นก็คือ การจัดฟันแบบดามอน หรือ Damon System นั่นเอง
ซึ่งหากมองดูเผิน ๆ ก็เหมือนลวดดัดฟันติดเหล็กทั่ว ๆ ไปนะคะ แต่ด้วยนวัตกรรมของเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น ได้รับการออกแบบให้มีกลไกที่มีความยืดหยุ่นสูง มีฝาเปิด-ปิดแบบไม่ต้องใช้ยางรัดลวดจัดฟัน จึงทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับฟันเราได้ง่ายมากขึ้นค่ะ
ดังนั้น ถ้าอยากจัดฟันให้เสร็จเร็ว ๆ ก็ขอแนะนำให้จัดฟันแบบดามอนเลยค่ะ
เคล็ดลับที่ควรรู้ระหว่างจัดฟัน เพื่อให้จัดฟันเสร็จเร็วขึ้น
จัดฟันใช้เวลานานแค่ไหน? โดยปกติทั่วไปแล้วจะใช้เวลา 2-3 ปีโดยประมาณ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจใช้เวลาเร็วขึ้นหรือช้าลงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันด้วยนะคะ เพราะคนไข้แต่ละคนก็มีปัญหาเรื่องฟันที่ไม่เหมือนกัน มีความยาก-ง่ายที่ต่างกัน ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้วางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาฟันของคนไข้ค่ะ
และเราก็มีเคล็ดลับที่ควรรู้ระหว่างจัดฟัน เพื่อให้จัดฟันเสร็จเร็วขึ้นมาฝากกันด้วยนะคะ
- มาตามนัดคุณหมอทุกครั้ง
หลายคนอาจมองข้ามข้อนี้ไป เพราะจริง ๆ แล้วการจัดฟัน โดยเฉพาะการจัดฟันแบบติดเหล็ก จะต้องพบคุณหมอทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟันและทำตามแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง หากเราไม่ไปตามนัดหรือทิ้งระยะเวลานาน 2-3 เดือน/ครั้ง ก็จะทำให้ใช้เวลาจัดฟันนานขึ้น อาจจะเป็น 6-10 ปีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นต้องหมั่นไปพบคุณหมอตามนัด ห้ามเบี้ยวนัดเด็ดขาดนะคะ
- ทำความสะอาดฟันด้วยแปรงซอกฟันและไหมขัดฟันทุกวัน
รู้หรือไม่คะว่าจริง ๆ แล้วการทำความสะอาดฟันด้วยแปรงซอกฟันและไหมขัดฟันทุกวัน นอกจากจะช่วยให้ฟันไม่ผุและเหงือกไม่อักเสบแล้ว ยังมีส่วนช่วยทำให้จัดฟันเสร็จเร็วขึ้นด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าหากเราทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็จะทำให้เกิดคราบสกปรกหรือมีหินปูนเกาะลวดจัดฟัน จนทำให้ฟันเคลื่อนตัวได้ยาก หากคราบสกปรกสะสมไปเรื่อย ๆ นานวันเข้าก็ยิ่งพอกพูนกลายเป็นปัญหาสุขภาพฟันต่าง ๆ ตามมา จนอาจทำให้แผนการจัดฟันที่วางเอาไว้ต้องหยุดชะงัก เพื่อรักษาฟันซี่นั้น ๆ ไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลายไปกันใหญ่นั่นเองค่ะ
- งดทานอาหารที่เป็นของแข็ง เหนียวและชิ้นใหญ่
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จัดฟันช้าได้นั่นก็คือ การใช้ฟันกัดของแข็ง เหนียวและชิ้นใหญ่ โดยเฉพาะน้ำแข็ง หมากฝรั่ง เยลลี่ หรือแม้กระทั่งน่องไก่ทอดของโปรด เรียกได้ว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของเครื่องมือจัดฟันของเราเลยก็ว่าได้ เพราะอาจทำให้แบรคเกตหลุดหรือเกิดความเสียหาย สิ่งที่ตามมาคือฟันเคลื่อนไปผิดทาง ต้องแก้ไขฟันที่เคลื่อนผิดทางก่อนนั่นเองค่ะ
- การเกี่ยวหรือดึงยางตามคำแนะนำของคุณหมอ
ในขั้นตอนนี้อาจจะยากสำหรับใครหลาย ๆ คนนะคะ เพราะจะรู้สึกเจ็บมาก ๆ เมื่อต้องเกี่ยวหรือดึงยางในตำแหน่งฟันที่คุณหมอได้ติดเครื่องมือเอาไว้ ซึ่งถ้าเราอดทนได้ไม่มากพอ ใส่ ๆ หยุด ๆ บ่อย ๆ ก็จะทำให้ฟันเข้าที่ได้ช้าลง อาการปวดที่เป็นอยู่ก็จะไม่หายไปสักที เพราะฉะนั้นอดทนสักนิดนะคะ รับรองว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะต้องประทับใจแน่นอน
- เคี้ยวอาหารด้วยฟันทั้ง 2 ข้าง
การเคี้ยวอาหารด้วยฟันทั้ง 2 ข้างนั้นก็เป็นเสมือนการออกกำลังกายด้วยแขนทั้งสองข้างนั่นเองค่ะ ถ้าเรายกเวทด้วยแขนแค่ข้างเดียว บ่อย ๆ เข้า แขนของเราก็จะใหญ่ข้างหนึ่ง เล็กข้างหนึ่ง ไม่สมดุลกัน… นั่นแหละค่ะ การจัดฟันก็เช่นเดียวกัน เพราะถ้าเราเคี้ยวอาหารข้างเดียวบ่อย ๆ ก็จะทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้ไม่สมดุลกันหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งได้นะคะ
- งดสูบบุหรี่
ใครจะรู้ว่าบุหรี่ที่สูบเข้าไปแล้วพ่นควันออกมานั้น จะส่งผลอะไรต่อกระบวนการจัดฟันของเราได้บ้าง? ซึ่งแท้จริงแล้วเวลาที่สูบบุหรี่จะทำให้เกิดคราบเหนียว ๆ ติดแน่นที่ลวดจัดฟัน ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับข้อ 1 เลย เพราะมันจะยากต่อการทำความสะอาดมาก ๆ แถมยังรบกวนการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของกระดูกรอบ ๆ รากฟันด้วยนะคะ ถ้างดได้ก็จะทำให้เราจัดฟันได้เร็วขึ้น แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรจะต้องเน้นการทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ เช่น ใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรเฉพาะสำหรับจัดฟันร่วมด้วย
- เลือกจัดฟันแบบดามอน จัดฟันเร็ว
การจัดฟันประเภทนี้ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่สะดวกไปพบคุณหมอตามนัดบ่อย ๆ เพราะการจัดฟันแบบดามอนได้รับการออกแบบให้สามารถเคลื่อนฟันได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ ต่างจากการจัดฟันโลหะธรรมดาที่ใช้ยางรัดกับแบรกเกต ทำให้ฟันเคลื่อนตัวได้น้อยและเคลื่อนที่ได้อย่างจำกัด
สิ่งที่ต้องพบเจอระหว่างจัดฟันมีอะไรบ้าง
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เคยผ่านการจัดฟันมาแล้ว จะต้องเคยพบหรือเคยเจอกับสิ่งต่าง ๆ ระหว่างจัดฟันเหล่านี้อย่างแน่นอน ในที่นี้ก็จะรวมไปถึงการพบคุณหมอฟันตามนัดหมาย ค่าใช้จ่ายระหว่างจัดฟัน รวมไปถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ต้องปรับเปลี่ยนไปจากเดิมนะคะ
เอาล่ะค่ะ วันนี้จะเป็นการรวบรวมประสบการณ์จากคนที่เคยจัดฟันมาแล้วของหลาย ๆ ท่าน เอามามัดรวมกันเป็นข้อ ๆ กันเลยว่า สิ่งที่ต้องพบเจอระหว่างจัดฟัน มีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งต่าง ๆ อย่างมืออาชีพ ไม่ต้องไปเซอร์ไพร์ซหน้างานกันเลยค่ะ
สิ่งที่ต้องพบเจอระหว่าง การจัดฟัน
- ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน
แน่นอนว่าเมื่อเราตกลงที่จะจัดฟันแล้ว ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันทุกเดือนก็จะเป็นไปตามแพ็คเกจจัดฟันที่คนไข้เลือกเลยนะคะ สำหรับที่เด็นทัลพอยท์คลินิก เราจัดแพ็คเกจจัดฟันตามความสะดวกสบายของคนไข้เอง โดยจัดให้ถึง 4 แพ็คเกจ 4 สไตล์กันเลยทีเดียว ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2,000 บาท 4,000 บาท 6,000 บาท และ แพ็คเกจเหมาจ่ายครั้งเดียว (คลิกดูรายละเอียดแพ็คเกจจัดฟันเพิ่มเติม)
ในระหว่างจัดฟันก็อาจมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดฟันสำหรับจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟัน แปรงซอกฟัน และขี้ผึ้งกันลวดทิ่มกระพุ้งแก้ม หรือบางครั้งก็อาจจะมีค่าถอนฟัน ผ่าฟันคุดและเอ็กเรย์ช่องปากเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคุณหมอในแต่ละเคส แอบกระซิบว่าบางคนก็ไม่ต้องถอนหรือผ่านะคะ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ลองถามคุณหมอในวันที่ไปขอคำปรึกษาดูก็ได้ คุณหมอจะได้ประเมินช่องปากให้คร่าว ๆ ก่อน
- ไปตามนัดหมอฟันทุกเดือนอย่างเคร่งครัด
หลังจากใส่เหล็กจัดฟันไปแล้ว ข้อนี้นับว่าสำคัญมาก ๆ ถือเป็น “สิ่งต้องทำ” อันดับต้น ๆ ที่ควรจดลิสต์เอาไว้เลยค่ะ เพราะนี่แหละจะเป็นข้อชี้วัดได้ว่าฟันของเราจะเข้าที่ได้เร็วแค่ไหน ยิ่งคนไข้มาตรงตามนัดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ถอดเหล็กดัดฟันเร็วขึ้นเท่านั้นนั่นเองค่ะ หลังจากนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการดูแลและรักษาความสะอาดของคนไข้ด้วยนะคะ
โดยในทุก ๆ เดือนคุณหมอจะประเมินฟันของคนไข้ว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก-น้อยแค่ไหน ต้องถอนฟันหรือผ่าฟันคุดหรือไม่ มีฟันผุตรงไหนไหม ถ้าไม่มีปัญหาอะไร คุณหมอก็จะขยับเครื่องมือจัดฟันและเปลี่ยนยางให้นั่นเอง แต่ถ้าเกิดฟันผุขึ้นมาแล้วล่ะก็… การจัดฟันของเราอาจต้องหยุดชะงักไปก่อน เพื่อรักษาฟันผุไม่ให้ลุกลามจนต้องเสียฟันไปและป้องกันการลุกลามไปยังฟันซี่อื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ นั่นเองค่ะ
- ระเบียบวินัยในตัวเองของคนไข้
อย่างที่บอกไปในข้อเมื่อกี้นะคะว่าถ้าฟันของเราเกิดผุเป็นรูขึ้นมา แผนการจัดฟันก็จะถูกเลื่อนออกไป…
ดังนั้น คนไข้ก็ควรจะปรับพฤติกรรมของตัวเอง ทั้งการดูแลรักษาทำความสะอาดฟัน ซอกฟันและลิ้น โดยใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง แปรงซอกฟันและลิ้นให้สะอาดทุกครั้ง และก็อย่าลืมใช้ไหมขัดฟันควบคู่ไปด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการปรับพฤติกรรมการกิน โดยไม่ทานอาหารที่แข็งและเหนียวมาก ๆ เช่น เอาฟันเหล็กของเราไปแทะกระดูกไก่หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง อย่างนั้นไม่ได้นะคะ อดใจไว้ก่อน หลังถอนฟันเหล็กก็ค่อยว่ากันเนาะ
เราก็มีเมนูมาแนะนำสำหรับคนจัดฟันมาบอกกันด้วย ลองคลิกอ่านดูได้ที่ลิงก์นี้เลยค่ะ : เมนูอาหารสำหรับคนจัดฟัน
- แผลในปาก
เป็นธรรมดาที่จะมีการกระทบกระทั่ง หรือเสียดสีระหว่างลวดจัดฟันกับกระพุ้งแก้มของเรานะคะ บางครั้งก็อาจจะมีปลายลวดที่ไปโดนกระพุ้งแก้มของเราจนเป็นแผล ซึ่งเราก็จะใช้ขี้ผึ้งที่บอกไปตั้งแต่ข้อแรกเนี่ยแหละห่อหุ้มปลายลวดเอาไว้ไม่ให้แผลใหญ่ขึ้น หรือถ้าถ้าปลายลวดยาวมาก ๆ ก็อาจจะไปให้คุณหมอที่คลินิกตัดให้สั้นลงได้เหมือนกันค่ะ
- ลวดหลุด ยางขาด
บางครั้งที่เรากำลังเคี้ยว ๆ อาหารเพลิน ๆ อย่างเอร็ดอร่อย จู่ ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น ลวดดัดฟันหลุด หรือแบรคเกตหลุด แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในบางเคส วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือไปให้คุณหมอติดให้ใหม่ได้ หรือถ้าเราแปรงฟันอยู่ดี ๆ ยางบนแบรคเกตดันขาดขึ้นมา ก็สามารถรอให้คุณหมอเปลี่ยนยางให้ใหม่ในตามนัดครั้งถัดไปค่ะ
จะทำยังไงดี? ถ้ากลืนยางหรือแบรคเกตไปแล้ว
ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะเดี๋ยวร่างกายของเราจะกำจัดออกมาเองด้วยวิธีธรรมชาติ
- ปวดฟัน
หลังจากที่คุณหมอปรับเครื่องมือจัดฟันให้ บางคนอาจจะมีอาการปวด ๆ ตึง ๆ ที่ฟันบ้าง บางคนอาจปวดมาก ปวดน้อย หรือไม่ปวดเลยก็มีเหมือนกัน อย่างเคสที่คนไข้ปวดฟันมาก ๆ จนทนไม่ไหว ก็สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดนั้น ๆ ได้ ทั้งนี้ก็ควรจะอยู่ในความดูแลของคุณหมอด้วยนะคะ ระหว่างนี้ก็ให้ทานอาหารนิ่ม ๆ แบบที่เราไม่ต้องใช้แรงเคี้ยวเยอะ ๆ เช่น โจ๊ก ไข่ตุ๋น หรือโยเกิร์ต อย่างนี้เป็นต้นค่ะ
- รู้สึกรำคาญเหล็กดัดฟัน พูดไม่ค่อยชัด
ในช่วงแรกที่เราใส่เหล็กดัดฟันก็จะมีบ้างที่รู้สึกเคือง ๆ เหมือนอมอะไรอยู่ในปาก บางครั้งก็พูดไม่ชัด ทำให้ต้องขยับปากมากกว่าปกติ อันนี้ก็ให้คนไข้ค่อย ๆ ปรับตัวกันไปนะคะ เดี๋ยวเราจะค่อย ๆ ชินไปเอง
- เลือกสียางทุกเดือน
ดูเผิน ๆ จะเหมือนไม่ใช่ปัญหาน่าหนักใจอะไรนะคะ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่รู้จะว่าเดือนนี้จะเลือกสีอะไรดี เดือนก่อนก็เพิ่งเลือกสีน้ำเงินไป เดือนนี้ใส่สีชมพูไปแล้ว อาจถึงขั้นต้องกางตารางสียางมงคลกันเลยทีเดียว ปัญหานี้จะหมดไปค่ะ เพราะที่เด็นทัลพอยท์คลินิก เรามีทริคเลือกสียางง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่รู้จะเลือกสียางอะไรมาฝากกันค่ะ
สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดฟัน ก็คือการเลือกคลินิกทำฟันที่ดี ดูแลเคสจัดฟันโดยคุณหมอที่มากประสบการณ์นั่นเองค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้นี่แหละจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ช่วงก่อน-ระหว่าง -หลังจัดฟันของเราราบรื่นไม่มีปัญหา อีกทั้งยังได้รอยยิ้มสวย ๆ ติดตัวเราไปตลอดนั่นเองค่ะ
สำหรับคนไข้ที่มีแพลนจะจัดฟัน หรือมีปัญหาเรื่องการสบฟัน ฟันไม่เรียงเรียบ ก็สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษาจากคุณหมอมากประสบการณ์กว่า 10 ปี ดูแลมาแล้วกว่า 1,000 เคส ได้ที่เด็นทัลพอยท์คลินิกทันตกรรม (ดูแผนที่) หรือพูดคุยกับคุณหมอโดยตรงที่ LINE: @dppattaya.com ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบเหล็ก
ขั้นตอนการจัดฟันแบบเหล็ก หลังจากที่คนไข้ได้เข้ามาขอคำปรึกษากับคุณหมอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการจัดฟันเหล็กทันที โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนด้วยกันนะคะ นั่นก็คือ
- ขั้นตอนวางแผนการรักษา
- ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปาก
- ขั้นตอนการติดเหล็ก
ขั้นตอนวางแผนการรักษา
ในขั้นตอนนี้ทันตแพทย์จะต้องมีการวางแผนการรักษาอย่างละเอียด โดยที่จะมีการพิมพ์ปาก และถ่ายรูปเพื่อวางแผนการรักษา และเอกซเรย์ 3 ฟิล์มใหญ่ เพื่อให้แผนการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น และแก้ไขปัญหาเรื่องการสบฟันของคนไข้แต่ละเคสได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้นค่ะ
ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปาก
การเคลียร์ช่องปากนับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากขั้นตอนหนึ่งเลยนะคะ เพราะอย่างที่เราพอจะรู้กันมาบ้างแล้วว่าพอเราติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว เวลาจะทำความสะอาดก็จะยากขึ้นไปอีก บางทีซอกเล็ก ๆ ตามช่องปากที่แปรงสีฟันอาจจะเข้าไปไม่ถึงก็ทำให้ฟันของเราผุในระหว่างจัดฟันได้
ดังนั้น ก่อนที่จะติดเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะทำการตรวจเช็คช่องปากดูก่อนว่ามีฟันผุหรือไม่ จะต้องอุดฟันกี่ซี่ หรือต้องถอนฟันออกไปทั้งหมดกี่ซี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากในระหว่างที่ได้ติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว และต้องหยุดชะงักเพื่อรักษาปัญหาฟันนั้น ๆ ให้หายก่อนนั่นเองค่ะ
ซึ่งในขั้นตอนของการเคลียร์ช่องปากนี้ คนไข้จะต้องทำการอุดฟัน ขูดหินปูนให้เรียบร้อยก่อน ในบางเคสอาจต้องถอนฟัน หรือผ่าฟันคุดร่วมด้วยนะคะ
ขั้นตอนการติดเหล็ก
มาถึงขั้นตอนที่คนไข้หลาย ๆ คนรอคอย นั่นก็คือ การติดเครื่องมือจัดฟัน หรือเรียกง่าย ๆ ว่าติดเหล็กลงบนผิวฟันนั่นเองค่ะ
หลังติดเหล็กจัดฟันไปแล้ว ในช่วงแรกอาจจะรู้สึกแปลก ๆ เคือง ๆ ในช่องปาก หรือรู้สึกไม่ชินกับเครื่องมือจัดฟันสักเท่าไหร่ บางครั้งอาจมีอาการปวดตึงบ้างเล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในสัปดาห์แรกค่ะ ไม่ต้องตกใจไปค่ะ
ในระหว่างที่เราติดเหล็กจัดฟันอยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำความสะอาดในช่องปาก เพราะจะมีซอกฟันเล็ก ๆ ที่แปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง ต้องใช้แปรงซอกฟัน ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปากเข้าช่วย และต้องไม่ลืมที่จะทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เพื่อจะให้การจัดฟันของเราเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อผลลัพธ์รอยยิ้มสวย ๆ แบบที่เราคาดหวังเอาไว้ค่ะ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส
สำหรับขั้นตอนการจัดฟันใส คนไข้ที่อยากจัดฟันแบบใส โดยปกติแต่ละคลินิกจะใช้เครื่องสแกนปากสำหรับการรักษาคนไข้ ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน สำหรับเด็นทัลพอยท์คลินิก เราใช้เครื่องสแกนปาก iTero ซึ่งเป็นยี่ห้อที่แล็บ Invisalign เพราะมีความแม่นยำค่อนข้างสูงและเหมาะสำหรับการจัดฟันแบบใสโดยเฉพาะ โดยจะใช้กล้องที่มีความละเอียดสูงฉายเข้าไปในปาก ให้เห็นฟันทุกซี่และบันทึกการสบฟันไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ และยังสามารถส่งข้อมูลไปที่แล็บ Invisalign ได้ทันที ทำให้วางแผนการรักษาฟันแต่ละเคสได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ
จริง ๆ แล้ว การจัดฟันแบบใส จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ จัดฟันใสแบบ manual และ จัดฟันใสแบบดิจิตัล ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันตรงที่จำนวนครั้งในการพิมพ์ฟัน ความยากง่ายของเคส และราคาค่ารักษาที่แตกต่างกันค่ะ โดยที่เราจะแบ่งให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น นั่นก็คือ
- จัดฟันใสแบบ manual จะใช้สำหรับเคสง่าย ไม่มีความซับซ้อนมากนัก เช่น ฟันห่าง ฟันเก ฟันล้ม และฟันเบี้ยว โดยคนไข้จะต้องมาพิมพ์ฟันใหม่ทุก 2-4 เดือน
- จัดฟันใสแบบดิจิตัล จะใช้เคสที่มีความซับซ้อนมากกว่า ฟันเหยิน ฟันสบเปิด ฟันสบลึก โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการวางแผนการรักษาล่วงหน้าได้ตั้งแต่ต้นจนจบ คนไข้สามารถรับชิ้นงานได้จนครบจนจัดเสร็จค่ะ
ระยะเวลาในการจัดฟันติดเหล็กนานแค่ไหน
จัดฟันนานแค่ไหน จัดฟันใช้เวลากี่ปี ?
โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาจัดฟันประมาณ 2-3 ปี แต่อาจใช้ระยะเวลาน้อยหรือนานกว่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันด้วยนะคะ เพราะปัญหาฟันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ความรุนแรงของการสบฟันผิดปกติ ความยากง่ายของเคส การเจริญเติบโตของขากรรไกร และความร่วมมือของคนไข้ในการไปหาหมอตามนัด และใส่ยางดึงฟันหรือเครื่องมืออื่น ๆ ตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำ แต่สำหรับเคสที่ต้องถอนฟันร่วมกับการจัดฟันด้วย หรือมีอายุมากกว่า 30 ปี จะใช้เวลาในการรักษานานขึ้นกว่าปกติค่ะ
หากต้องการให้ฟันจัดเสร็จเร็ว ๆ แนะนำว่าควรมาตามนัดทุกเดือน งดกัดหรือเคี้ยวอาหารที่มีลักษณะแข็งหรือเหนียวจนทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้นะคะ เพราะนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันเข้าที่ช้า ซึ่งในคนไข้บางเคสอาจต้องจัดฟันนานกว่า 10 ปีก็มีเหมือนกันค่ะ
อายุที่ควรจัดฟัน
ว่าด้วยเรื่องของ อายุกับการจัดฟัน มีคำถามมากมายที่ถูกถามขึ้นมาว่า เด็กจัดฟันได้ไหม อายุเยอะจัดฟันได้ไหม อายุเท่าไหร่ถึงควรจะจัดฟัน จริง ๆ แล้วการจัดฟันสามารถทำได้ทุกเพศและทุกวัย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถจัดฟันได้เช่นเดียวกันค่ะ โดยที่จัดฟันสำหรับเด็ก จะแนะนำให้เริ่มจัดในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป ก็สามารถจัดฟันได้แล้ว เนื่องจากช่วงอายุ 7-14 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต ฟันกรามชุดแรกจะเริ่มงอกขึ้นมาแล้ว และเคลื่อนที่ได้ง่าย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟันด้วยนะคะ
แต่สำหรับผู้ที่มีอายุเยอะแล้วที่อยากจัดฟัน ในเคสนี้ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ เพียงแต่อาจจะใช้เวลาที่ยาวนานกว่าปกติเท่านั้นเอง ในบางรายที่มีเหงือกและฟันไม่ค่อยแข็งแรงก็มีโอกาสที่จะเกิดเหงือกร่นที่บริเวณโคนฟันได้ค่ะ ทั้งนี้ก็ขอแนะนำว่าควรไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพฟันก่อน เพื่อจะได้เตรียมตัวได้อย่างถูกต้องนะคะ
ฟันแบบไหนควรจัดฟันบ้าง
การจัดฟัน เรียกได้ว่าเป็นวิธีการรักษาทางทันตกรมวิธีหนึ่งที่ได้รับความยอดนิยมมากในปัจจุบัน โดยทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือจัดฟันในการเคลื่อนย้ายฟัน เพื่อช่วยรักษาการสบฟันและการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ ซึ่งความผิดปกตินั้นอาจเกิดขึ้นได้จากกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เกิดจากความเคยชิน ไม่ว่าจะเป็น
- การดูดนิ้ว
- หายใจทางปาก
- ลิ้นดุนฟัน
- เคี้ยวอาหารข้างเดียว
- การกลืนที่ผิดปกติ
- การเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ผิดปกติ
- ฟันน้ำนมหลุดก่อนเวลาอันควร
- การสูญเสียฟันเนื่องจากอุบัติเหตุและไม่ใส่ฟันทดแทน
ด้วยพฤติกรรมที่ได้ยกตัวอย่างไปนี้ ล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อการเรียงตัวของฟันและการสบฟันทั้งสิ้นเลยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นอาจส่งผลไปถึงรูปหน้า การบดเคี้ยวอาหารที่ไม่ละเอียด การดูแลรักษาความสะอาดฟัน และบั่นทอนความมั่นใจของเราได้อีกด้วยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับการสบฟัน
เมื่อเราพอจะเข้าใจถึงสาเหตุและที่มาของการสบฟันที่ผิดปกติแล้ว เด็นทัลพอยท์จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลักษณะฟันที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันกันค่ะ
ฟันแบบไหนควรจัดฟันบ้าง
- ฟันเหยิน
ลักษณะฟันด้านบนยื่นไปข้างหน้ามากกว่าปกติ ส่งผลให้ริมฝีปากประกบกันไม่สนิท ปากอูม ไม่มั่นใจเวลายิ้ม
- ฟันล่างยื่น
เกิดขึ้นจากความผิดปกติของขากรรไกรที่ยื่นออกมามากผิดปกติ จนทำให้ฟันล่างยื่นคร่อมฟันบน ส่งผลต่อการบดเคี้ยวและคางดูยื่นกว่าปกติ
- ฟันซ้อน ฟันเก
เกิดขึ้นจากการที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นไปตามแนวเหงือก ทำให้ฟันซ้อนหรือเกยกัน การทำความสะอาดฟันเป็นไปได้ยาก กลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ
- ฟันสบไขว้
เกิดจากการที่ฟันซี่ตรงกลางไม่ตรงกัน หรือเกิดภาวะสบฟันไม่พอดีกัน ส่งผลให้หน้าเบี้ยว รูปหน้าไม่สมดุล
- ฟันสบเปิด
การที่ฟันหน้าด้านบนและล่างห่างจากกันเมื่อสบฟัน ส่งผลให้พูดไม่ชัดและมีปัญหาเรื่องการเคี้ยวบดอาหาร
- ฟันห่าง
เกิดจากการที่ฟันเรียงตัวห่างกันจนเกิดช่องว่างระหว่างฟัน ทำให้พูดไม่ชัดหรือมีน้ำลายกระเด็นขณะพูด
เคลียร์ช่องปากกี่บาท กว่าจะได้ติดเหล็กนานไหม
ขั้นตอนก่อนติดเหล็กจัดฟัน ต้องมีการเตรียมตัวทั้งร่างกาย จิตใจ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนเริ่มติดเครื่องมือจัดฟัน เนื่องจากการจัดฟันเป็นการรักษาที่มีความยุ่งยากซับซ้อน และใช้ระยะเวลายาวนานเป็นปี ๆ ดังนั้น การเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อย จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างจัดฟันได้นั่นเองค่ะ
เคลียร์ช่องปาก ประกอบไปด้วย การพิมพ์ปาก เอกซเรย์ อุดฟัน และขูดหินปูน ในบางรายอาจต้องมีการถอนฟันและผ่าฟันคุดร่วมด้วย ซึ่งในวันนี้เด็นทัลพอย์คลินิกจะมาแจกจ่ายรายละเอียดในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สำหรับเคลียร์ช่องปากมาฝากกันค่ะ โดยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนการวางแผนการรักษา
ก่อนที่จะทำการจัดฟัน คุณหมอจะต้องมีการวางแผนการรักษาอย่างละเอียดเพื่อให้แผนการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น และแก้ไขปัญหาเรื่องการสบฟันของคนไข้แต่ละเคสได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้นนะคะ โดยในขั้นตอนนี้ จะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2 รายการด้วยกัน นั่นก็คือ
-
- พิมพ์ปาก และถ่ายรูปเพื่อวางแผนการรักษา ราคา 1,050 บาท
- เอกซเรย์ 3 ฟิล์มใหญ่ ราคา 1,300 บาท
- ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปาก (อุด ขูด ถอน)
ในขั้นตอนของการเคลียร์ช่องปากนี้ ต้องให้คุณหมอตรวจเช็คช่องปากดูก่อนว่ามีฟันผุหรือไม่ จะต้องอุดฟันกี่ซี่ หรือต้องถอนฟันออกไปทั้งหมดกี่ซี่ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากในระหว่างที่ได้ติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว และต้องหยุดชะงักเพื่อรักษาปัญหาฟันนั้น ๆ ให้หายก่อนนั่นเองค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายในขั้นตอนนี้ จะเป็นราคาคร่าว ๆ ที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยนะคะ
- อุดฟันสีเหมือนฟัน ราคาเริ่มต้นซี่ละ 600-1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดของการผุ)
- ขูดหินปูน ราคาอยู่ระหว่าง 600 – 1,200 บาท (ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูน)
- ถอนฟัน ราคาเริ่มต้น ซี่ละ 600 -1,500บาท
- ผ่าฟันคุด ราคาเริ่มต้น ซี่ละ 1,500 -4,000บาท (ขึ้นอยู่กับความยากง่าย)
ดังนั้น ในขั้นตอนการเคลียร์ช่องปาก ควรเตรียมเงินอย่างน้อย 3,000-5,000 บาท หลังเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถติดเหล็กจัดฟันได้แล้วค่ะ
อายุมากแล้วจัดฟันได้ไหม
ว่าด้วยเรื่องของอายุกับการจัดฟัน ไม่ว่าวัยไหนก็สามารถจัดฟันได้ค่ะ สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าอายุเยอะจัดฟันได้ไหม เด็นทัลพอยท์มีคําตอบมาให้แล้วค่ะ
สําหรับการจัดฟันในผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปและอยากจัดฟัน สามารถทําได้ค่ะ เพียงแต่อาจจะใช้เวลาในการจัดฟันที่ยาวนานกว่าปกติเท่านั้นเอง เนื่องจากการเคลื่อนฟันในผู้ใหญ่จะช้ากว่าเด็ก และมีโอกาสเป็นไปได้ว่าอาจเกิดเหงือกร่นบริเวณโคนฟันได้
ทั้งนี้ ควรไปตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ก่อน เพื่อจะได้เตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง และหากมีสุขภาพเหงือก ฟัน และกระดูกที่แข็งแรงเพียงพอสำหรับรองรับการเคลื่อนของฟัน โอกาสที่จะเกิดปัญหาระหว่างจัดฟันก็จะน้อยลงตามไปด้วยค่ะ
ใส่ฟันปลอมอยู่ สามารถจัดฟันได้ไหม
ใส่ฟันปลอมอยู่จัดฟันได้ไหม เป็นคำถามที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวค่ะ เพราะในเคสที่คนไข้เคยถอนฟัน หรือสูญเสียฟันบางส่วนไป แต่ต้องการจัดฟัน เพื่อรักษาการสบฟันและการเรียงตัวของฟันให้ดียิ่งขึ้น จริง ๆ แล้วสามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์ประจำเคส ซึ่งวันนี้เด็นทัลพอยท์คลินิกจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ 2 กรณีด้วยกันดังนี้ค่ะ
- กรณีสูญเสียฟันหน้าและใส่ฟันปลอมถอดได้
ทันตแพทย์จะใช้วิธีแขวนฟันปลอมทดแทนบริเวณช่องว่างระหว่างฟัน (ฟันหลอ) โดยใช้แบร็กเก็ตที่ทำการเกี่ยวยางโอริงแล้ว นำมาติดบนซี่ฟัน(ปลอม)ให้ดูเหมือนการจัดฟันตามปกติ จากนั้นนำจึงมาห้อยบนลวดจัดฟัน เพื่อไม่ให้มีช่องว่างและเพิ่มความสวยงามให้กับรอยยิ้ม ทำให้คนไข้สามารถยิ้มและพูดคุยได้อย่างมั่นใจ เมื่อจัดฟันเสร็จแล้ว ก็สามารถทำฟันปลอมชิ้นใหม่มาใส่ทดแทนได้ค่ะ
- กรณีใส่รากฟันเทียม
ในกรณีนี้จะมีข้อจำกัดเล็กน้อยเกี่ยวกับรากฟันเทียมที่ฝังอยู่ในกระดูกของคนไข้ ซึ่งการจัดฟันนั้นจะไม่สามารถเคลื่อนฟัน(ปลอม)ที่ทำการฝังลงไปแล้วได้ แต่ยังสามารถเคลื่อนฟันซี่อื่น ๆ ได้ตามปกติค่ะ
ถอนฟันกรามไปแล้ว จัดฟันได้ไหม
ในเคสที่มีการถอนฟันออกไป จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการถอนฟันกรามใหญ่ที่มักส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสบฟันและการบดเคี้ยวที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
การจัดฟันในเคสแบบนี้จำเป็นจะต้องมีการวางแผนการรักษาและประเมินโดยทันตแพทย์เสียก่อน เพราะหากมีการรักษาที่ไม่เหมาะสมก็จะส่งผลต่อการผลการรักษาโดยตรงเมื่อถอดเหล็กจัดฟันออกไป เช่น ฟันหน้าเบี้ยว ฟังห่างบางช่วง หรือการสบฟันมีปัญหาในภายหลัง ในบางรายอาจจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมร่วมกับการจัดฟัน เช่น ปักสกรู หรือใส่ฟันปลอมทดแทน เป็นต้นค่ะ
ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT (คลิก)
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน