096-305-0765

ปัญหาเหงือกและฟันไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างแน่นอน หมอขอแนะนำว่าควรใส่ใจดูแลให้ดีอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นสุขภาพเหงือกและฟันก็จะเสื่อมลงๆ จนบานปลายไปเป็นอาการหรือโรคที่ร้ายแรง และพอเป็นแล้วไม่รีบรักษา อาการก็จะยิ่งเรื้อรัง ยิ่งเจ็บยิ่งทรมาน รักษายากค่ะ
ขอให้จำไว้อยู่เสมอว่าอย่าไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ! อย่าเพิ่งไปหาหมอฟันตอนที่อาการเรื้อรังแล้ว! หมอบอกเลยว่าไม่คุ้มค่ากับทั้งความเจ็บปวด และเงินค่ารักษาที่เสียไปอย่างแน่นอนค่ะ สู้เราดูแลสุขภาพในช่องปากให้ดีสม่ำเสมอ ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆจะดีกว่า

อย่างแรกที่หมออยากจะอธิบายก่อนคือ ปัญหาหลักๆที่เกี่ยวกับฟันและเหงือก เพื่อให้รู้ว่าแต่ละอย่างเกิดมาจากอะไร และควรมีวิธีป้องกันยังไงบ้าง ลองไปดูกันเลยค่ะ

1. โรคฟันผุ 😷

หรือเรียกอีกชื่อว่าโรคแมงกินฟัน เป็นหนึ่งในโรคฟันยอดนิยม มีคนเป็นกันมากถึง 80% โดยเฉพาะเด็กๆที่ชอบกินขนมหวาน และไม่รู้จักการแปรงฟันที่ถูกวิธี เนื่องจากสาเหตุของโรคนี้คือ เศษอาหารไปติดอยู่ตามฟัน สะสมอยู่นานจนเป็นเชื้อแบคทีเรียค่ะ จากนั้นจะมีการย่อยสลายของแป้งและน้ำตาล เกิดเป็นกรดแล็คติค แล้วกรดแล็คติคที่ว่านี้จะสลายโครงสร้างของฟัน ทำให้ฟันผุ กร่อนไปทีละนิดๆ ถ้าใครเป็นแบบนี้แล้วควรรีบไปหาหมอฟันด่วนเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอาการอักเสบและติดเชื้อได้อย่างรุนแรง เจ็บจี๊ดแบบสุดๆ จนแทบไม่อยากจะเคี้ยวอาหารเลยทีเดียว

2. โรคเหงือก 😷

คืออาการเหงือกอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ถ้าไม่ขยันแปรงฟันให้สะอาดทุดวัน เชื้อแบคทีเรียที่ว่านี้ก็จะยิ่งสะสมและไม่เพียงแต่ทำให้เหงือกอักเสบเท่านั้นด้วยนะคะ แต่จะลามไปถึงเนื้อเยื้อฟันด้วย ซึ่งถ้าอาการร้ายแรงมากก็อาจจะจำเป็นต้องถอนฟันทิ้งเลยก็ได้
อาการเบื้องต้นของโรคเหงือกที่สังเกตได้คือเหงือกจะเริ่มบวมแดง มีเลือดมีหนองออก เหงือกกับฟันไม่ค่อยติดกัน เวลาเคี้ยวอาหารแล้วจะรู้สึกว่าเหมือนซี่ฟันขยับ ซึ่งถ้ารู้สึกว่าเป็นแบบนี้แล้วอย่ามัวรอช้านะคะ รีบไปหาหมอฟันให้รักษาแต่เนิ่นๆเลย

3. หินปูน 😷

เกิดจากน้ำลายของเรา และเศษอาหารที่สะสมอยู่ในช่องปากกลายเป็นจุลินทรีย์ ทำปฏิกิริยาต่อกันจนเป็นตะกอนติดอยู่ตามฟัน จะเป็นสีเทาๆเงินๆ ซึ่งถ้าไม่รีบขูดออก นานๆไปจะยิ่งเอาออกยาก และสะสมมากๆจนบานปลายเป็นอาการเหงือกอักเสบได้ค่ะ

4. การได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป 😷

หลักๆแล้วคนเราจะรับฟลูออไรด์ได้จากในน้ำดื่ม หรือยาสีฟัน ซึ่งจริงอยู่ค่ะที่ฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ แต่ถ้าได้รับในปริมาณสูงเกินไปก็ทำให้เกิดปัญหาได้เหมือนกัน คือทำให้ฟันมีสีผิดปกติและตกกระ จนอาจพัฒนาไปเป็นอาการหรือโรคที่ร้ายแรงได้

…หลายๆคนพออ่านแล้วก็คงจะเริ่มกลัว แต่หมอจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องกลัวค่ะ เพราะเราสามารถป้องกันมันได้ อย่างที่บอกว่าแค่ใส่ใจดูแลสุขภาพในช่องปากอยู่เสมอ ก็จะห่างไกลจากโรคและอาการที่ร้ายแรงได้ค่ะ…

และต่อไปนี้ก็เป็นเคล็ด(ไม่)ลับง่ายๆ ที่หมออยากเอามาฝาก ขอให้เอาไปใช้กันให้ครบทุกข้อนะคะ รับรองว่าสุขภาพเหงือกและฟันที่ดีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

1. แปรงฟันหลังทานข้าวทุกครั้ง

โดยควรแปรงครั้งละประมาณ 2-3 นาที แปรงให้สะอาดทุกซอกทุกมุม ทั้งฟันบน ฟันล่าง ฟันกราม หรือแม้กระทั่งลิ้นด้วยเพราะอาจมีเศษอาหารติดอยู่ได้ค่ะ

2. พยายามทานอาหารที่มีบำรุงเหงือกและฟัน

เช่นส้ม ซึ่งมีวิตามินซีและช่วยป้องกันการเลือดออกตามไรฟัน

3. งดการใช้ฟันฉีกหรือแกะของที่เปิดยากๆ

เช่นถุงขนม ฝาขวดน้ำ เพราะมันอาจจะไม่ได้ทำให้เป็นโรคหรือความผิดปกติในข้างต้น แต่ก็สามารถทำให้ฟันแตก บิด หรือโยกได้ ซึ่งหมอมั่นใจว่าคงไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนั้น

4. ใช้ไหมขัดฟันขัดตามซอกฟันหลังจากแปรงฟันเสร็จแล้ว

จะดีมากค่ะ เพราะจะเป็นการเอาเศษอาหารเศษเล็กๆออก

5. ถึงแม้จะไม่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติอะไร

แต่อย่าลืมหมั่นไปหาหมอฟันทุกๆ 6 เดือนนะคะ เพราะหมอฟันจะได้ตรวจอย่างละเอียด ว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะได้รีบแก้รีบรักษาแต่เนิ่นๆ ยิ่งปล่อยทิ้งไว้อาการจะยิ่งบานปลาย ยิ่งเจ็บ ยิ่งรักษายาก ไม่คุ้มกว่ากันเยอะเลยค่ะ

Comments

comments