“ลูกชอบดูดนิ้ว” ปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเพิกเฉย!

จริงอยู่ค่ะที่พฤติกรรมการดูดนิ้วเป็นเรื่องปรกติธรรมดาสำหรับเด็กเล็กๆ แต่หมออยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า ไม่ใช่เรื่องที่ควรปล่อยปละละเลยนะคะ ควรพยายามหาทางแก้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยจะมีปัญหาใหญ่ตามมาได้ค่ะ

ปัญหาใหญ่ที่หมอกำลังจะพูดถึงคืออะไร? มีหลายอย่างค่ะ อย่างแรกเลยคือ จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของฟันแท้ค่ะ เช่นฟันอาจจะขึ้นได้ไม่เต็มที่ ฟันยุบ หรือไม่ก็ขึ้นผิดตำแหน่ง ทำให้ฟัน เก เข ยื่น สบกันไม่พอดีได้ แต่เท่านั้นยังไม่พอค่ะ! นอกจากจะไม่ดีกับฟันแล้ว การที่เด็กชอบดูดนิ้วบ่อยๆอาจทำให้เพดานปากเบี้ยวในระยะยาวได้

รู้อย่างนี้แล้ว คงจะเฉยไม่ได้แล้ว ใช่มั้ยคะ?

ไม่ต้องกังวลใจ เพราะปัญหามีทางออกเสมอค่ะ เบื้องต้นขอแค่คุณพ่อคุณแม่พยายามหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกก่อน อย่าปล่อยให้มีจังหวะเผลอจนลูก(แอบ)ดูดนิ้วได้

ความจริงแล้ว ปกติพฤติกรรมดูดนิ้วของเด็กมักจะหายไปตอนอายุประมาณ 2-4 ปี หรืออย่างน้อยก็ตอนที่ฟันหน้าแท้กำลังจะงอกขึ้นมา แต่ถ้าถึงเวลาแล้วยังไม่หายซักที ก็ขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ใจเย็นๆก่อนค่ะ อย่าดุ อย่าต่อว่าลูกให้ลูกกลัว แต่ให้ค่อยๆช่วยลูกลด ละ เลิกพฤติกรรมไปทีละนิดค่ะ

ลองดูวิธีง่ายๆตามต่อไปนี้ก็ได้ค่ะ

-ข้อแรกสำคัญที่สุด
คือคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจก่อนกว่า เด็กมักจะดูดนิ้วก็ต่อเมื่อเขากำลังรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่อบอุ่น เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะหาทางคลายเครียดให้ลูก ใช้เวลาอยู่กับลูก เล่นกับลูก ให้ลูกรู้สึกสนุกสนาน แล้วก็มีความสุขค่ะ

-ถ้าเป็นเด็กที่เริ่มโตแล้ว
อันนี้ก็พอจะคุยกันได้แล้ว เขาอาจจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองมีพฤติกรรมชอบดูดนิ้ว และว่ามันไม่ดีกับสุขภาพฟันยังไง เขาอาจจะอยากแก้นิสัยตัวเองอยู่แต่ไม่รู้วิธีก็ได้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้คำปรึกษาลูก ช่วยกันเลือกหาวิธีร่วมกันค่ะ

-และแน่นอนว่าพอลูกเริ่มลดพฤติกรรมการดูดนิ้วได้แล้ว
อย่าลืมเอ่ยปากชมด้วยนะคะ เขาจะได้จำได้ว่า อ๋อ พอไม่ดูดนิ้วแล้วพ่อแม่จะใจดี ชื่นชมเขาแบบนี้นี่เอง จะได้เลิกได้ค่ะ

แต่ถ้าทำตามนี้ทำแล้วยังไม่ได้ผล ก็เหลือวิธีสุดท้ายแล้วค่ะ คือให้หาพลาสเตอร์ หรือถุงเท้ามาพันมือลูกตอนกลางคืน จะได้ดูดนิ้วไม่ได้ นอกจากนี้ไปหาหมอฟันเด็กก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

Comments

comments