สีของฟัน เป็นองค์ประกอบหนึ่งของรอยยิ้ม ด้วยอายุที่มากขึ้น และการรับประทานอาหารต่าง ๆ ที่มีสี เช่น แกงเขึยวหวานของโปรด ไวน์แดงรสเลิศ หรือโคคาโคล่าที่แสนชื่นใจ ตลอดจนการสูบบุหรี่ การดื่มชา กาแฟ หรือ อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด ที่เปลี่ยนสีฟันของเราที่เคยขาว เงางามให้มีสีที่หม่นหมอง มีคราบสีน้ำตาล และทำให้ฟันเหลือง
ดังนั้น การฟอกสีฟัน จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่หลาย ๆ คนมักจะเลือกใช้แก้ไขปัญหาสีของฟันให้มีความขาวและเงางามมากยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าการสูบบุหรี่และชากาแฟทำให้เกิดคราบเหลืองได้อย่างไร สามารถคลิกแล้วอ่านต่อได้จากข้อความด้านล่างนี้นะคะ
หัวข้อย่อย
การฟอกสีฟัน
ประเภทของการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟัน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
การฟอกสีฟันทั้งสองประเภทนี้ มองดูเผิน ๆ อาจจะดูเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้ว ยังมีความแตกต่างกันอยู่นะคะ เพราะน้ำยาฟอกสีฟันในคลินิกจะมีความเข้มข้นสูงกว่าการฟอกสีฟันที่บ้านด้วยตัวเองนั่นเองค่ะ
เรามาทำความรู้จักการฟอกสีฟันทั้งสองประเภทให้ดียิ่งขึ้นกันดีกว่า !
การฟอกสีฟันในคลินิก
การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อภายในช่องปากหรือริมฝีปากเมื่อสัมผัสกับน้ำยาโดยตรง จึงจำเป็นที่จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทันตแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะหากเกิดการสัมผัสกันระหว่างน้ำยาฟอกสีฟันและผิวหนัง ทันตแพทย์จะมีวิธีการช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวหนังได้ทันท่วงที ทำให้เกิดบาดแผลน้อย และลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้นั่นเองค่ะ
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ทันใจ ใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาที ในการไปกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันทำปฏิกิริยากับผิวฟัน เพื่อผลลัพธ์ความขาวและเงางามดั่งใจของคนไข้นั้นเองค่ะ
ทั้งนี้ ระยะเวลาในการแปลงโฉมฟันเหลืองให้ขาวขึ้นนั้น ก็จะต้องขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และประเภทของเครื่องฉายแสงที่ใช้ด้วยนะคะ
ฟอกสีฟันที่เด็นทัลพอยท์คลินิก
การฟอกสีฟันที่บ้าน
คนไข้สามารถฟอกสีฟันได้ด้วยตนเองที่บ้าน เพราะน้ำยาฟอกสีฟันที่ใช้นั้นมีความเข้มข้นต่ำ โดยปกติ คนไข้จะสวมถาดฟอกสีฟัน ซึ่งบรรจุน้ำยาฟอกสีฟันในระหว่างเวลานอน 6-8 ชั่วโมง ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น ตามความพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้
แต่ในกรณีที่ฟันมีสีเข้มมาก ๆ หรือฟันที่มีสีเข้มจากการได้รับยาปฏิชีวนะ ประเภทเตตร้าไซคลิน* ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีการฟอกสีฟันในคลินิกก่อน หลังจากนั้นทันตแพทย์จะทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล เพื่อนำไปฟอกสีฟันต่อที่บ้าน โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน หรือมากกว่านั้น
*Tetracycline – การได้รับยาประเภทนี้ตั้งแต่วัยเด็ก จะทำให้ฟันมีสีเข้มมาก จนบางครั้งออกสีน้ำตาล หรือสีเทา
ด้วยความเข้มข้นต่ำของน้ำยาฟอกสีฟัน ดังนั้น จึงต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าการฟอกสีฟันในคลินิก แต่มีข้อดีคือ ความสะดวกสบายของผู้ใช้ เพราะสามารถใช้ได้ทุกครั้งที่ต้องการ หรือเมื่อเห็นว่าฟันมีสีคล้ำลง และการฟอกสีฟันที่บ้านร่วมกับการฟอกสีฟันที่คลินิกจะ ทำให้ฟันขาวได้เร็วและขาวได้ค่อนข้างมากด้วยค่ะ
- สำหรับคนที่สนใจ โปรโมชั่นฟอกสีฟัน คลิกตรงนี้เลยค่ะ : โปร ฟอกสีฟัน ราคาพิเศษ
เทคนิคฟอกสีฟันในคลินิก
กระบวนการฟอกสีฟันได้มีการพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคนิคที่หลากหลายให้เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของสีฟันและลักษณะการดำรงชีวิตของคนเรา โดยเทคนิคการฟอกสีฟันจะใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Cool Light Teeth Whitening” นั่นเองค่ะ
Cool Light Teeth Whitening
เป็นกระบวนการฟอกสีฟันภายในคลินิก โดยการกระตุ้นสารสำคัญในเจลฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น ในระบบ LED whitening system ซึ่งในปัจจุบัน สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้เทียบเคียงกับการใช้แสงเลเซอร์สำหรับฟอกสีฟัน แต่มีอาการเสียวฟันน้อยกว่า และที่สำคัญใช้เวลาเพียง 7+30+7 นาทีเท่านั้น
7 นาทีแรก สำหรับการเตรียมช่องปาก
7 นาทีหลัง สำหรับการเคลียร์ช่องปากเมื่อเสร็จสิ้น
การฟอกสีฟันด้วย Cool Light Whitening เป็นการฟอกสีฟันภายในคลินิก ด้วยการใช้เครื่องรุ่น Crystal 1200 และระบบแสง LED Whitening System ซึ่งมีข้อดีกว่าการใช้แสงประเภทอื่น นั่นก็คือ
- จะเกิดความร้อนในขณะที่ฟอกสีฟันน้อยมาก
- อาการเสียวฟันน้อย
- แสง LED ( Light Emitting Diode) ออกแบบมาสำหรับการฟอกสีฟันโดยเฉพาะ
สารไฮโดรเจนเปอร์อ็อกไซด์ในน้ำยาฟอกสีฟัน เมื่อถูกกระตุ้นด้วยแสงจากระบบ LED System จะแตกตัวออกเป็นอนุมูลอิสระ และเข้าไปจับตัวกับโมเลกุลสีที่เกาะติดอยู่บนผิวเคลือบฟัน ทำให้โมเลกุลสีดังกล่าวหลุดออกจากผิวเคลือบฟัน ส่งผลให้ฟันมีสีขาวและสว่างขึ้นอย่างที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ การออกแบบตัวเครื่องฟอกสีฟัน Crystal 1200 ยังออกแบบให้มีการส่องแสงไปตามแนวโค้งของรูปปาก ทำให้ตำแหน่งของการกระจายแสงสามารถครอบคลุมบริเวณฟันได้มากที่สุด และที่สำคัญยังทำให้การกระตุ้นน้ำยาฟอกสีฟันมีการทำงานไ้ด้สม่ำเสมอ ส่งผลให้สีของฟันมีความขาวเท่ากันทุก ๆ ซี่เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงของสีฟัน จะขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายประการ เช่น อายุ และโครงสร้างของฟัน เป็นต้น
ขั้นตอนในการฟอกสีฟัน
ลำดับแรก ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพในช่องปาก โดยเฉพาะบริเวณเหงือกและฟันที่จะทำการฟอกสีฟัน
เมื่อพิจารณาแล้วว่าสามารถฟอกสีฟันได้ ทันตแพทย์จะทำการขัดฟัน และทำการฟอกสีฟัน โดยจะมีวัสดุกั้นและปิดขอบเหงือกในบริเวณที่ติดกับคอฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกแตะโดนน้ำยาฟอกสีฟัน
จากนั้นทันตแพทย์จะทำการป้ายน้ำยาฟอกสีฟันลงบนตัวฟัน ร่วมกับการกระตุ้นด้วยแสง Cool Light เป็นเวลา 10 นาที แล้วหยุดพักเพื่อเติมน้ำยาฟอกสีฟัน หลังจากนั้นจะฉายแสงซ้ำอีก จนครบ 30 นาที
เมื่อครบ 30 นาที ทันตแพทย์จะล้างน้ำยาฟอกสีฟันออก และนำที่กั้นเหงือก พร้อมกับป้ายน้ำยาฟลูออไรด์เพื่อช่วยลดอาการเสียวฟัน เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการฟอกสีฟัน โดยปกติสีของฟันจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ 4-15 เฉดสีหลังจากทำเสร็จ
การเปลี่ยนแปลงเฉดสีของฟัน จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างด้วยกันคือ
- คนไข้ยังอายุน้อย โอกาสที่สีของฟันจะขาวขึ้นจะมีมากกว่าผู้ที่สูงวัยกว่า
- โครงสร้างและความหนาของชั้นเคลือบฟัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของสีฟันที่เข้มขึ้น (หากการที่ฟันมีสีเข้มขึ้นจากการติดสีของเครื่องดื่ม อาหาร หรือการสูบบุหรี่ สีย่อมเปลี่ยนแปลงง่ายกว่าฟันที่เข้มเพราะได้รับยาปฏิชีวนะ)
แต่ทั้งนี้ ในขั้นตอนของการตรวจสุขภาพในช่องปากก่อนทำการฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะเปรียบเทียบสีฟันก่อนทำการฟอก และประเมินหรือคาดการณ์สีฟันหลังฟอกให้คนไข้ได้ตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง แต่ทั้งนี้ ไม่มีผู้ใดที่จะบอกได้ว่า ความขาวของสีฟันนั้นจะอยู่ที่ระดับใดได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากฟอกสีฟันด้วย Cool Light แล้ว สีฟันมักจะขาวขึ้นอีกประมาณ 30% ภายในระยะเวลา 1-7 วัน
จากภาพด้านบนนี้เป็นการเปรียบเทียบสีฟันก่อนและหลังทำการฟอก โดยจะเปรียบเทียบกับ Shade Guide ภาพทางฝั่งซ้ายถ่ายไว้ช่วงเวลา 17.30 น. ซึ่งเป็นสีฟันก่อนทำการฟอก ส่วนภาพทางด้านขวาถ่ายไว้ช่วงเวลา 18.15 น. จะพบว่าสีของผิวฟันทั้ง 2 ภาพมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ตารางเปรียบเทียบค่าความต่างของการฟอกสีฟันด้วยเทคนิคต่าง ๆ
เทคนิค |
Time Need |
Side Effect |
สีฟันหลังฟอก |
ราคา (บาท) |
Cool Light* |
30 นาที |
ไม่ค่อยมีผลข้างเคียง อาจมีอาการเสียวฟันเพียงเล็กน้อย |
4-15 เฉด |
4,550 |
เลเซอร์ |
120 นาที |
มักมีอาการเสียวฟันเกิดร่วมด้วยเสมอ ทั้งระหว่าง และหลัง |
6-8 เฉด |
7,000-12,000 |
พลาสม่า |
90 นาที |
มักมีอาการเสียวฟันมาก อาจต้องรับยาแก้ปวดร่วมด้วย |
5-8 เฉด |
5,000-9,000 |
ถาดฟอกสีฟันที่บ้าน |
2-3 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีอาการเสียวฟันน้อยมาก แต่ใช้เวลานาน |
0-6 เฉด |
– |
ยาสีฟันฟอกฟันขาว |
1-2 เดือน |
ไม่มี |
0-2 เฉด |
– |
ระยะเวลาที่สีของฟันซึ่งขาวขึ้นนั้น จะคงอยู่ตลอดไปหรือไม่นั้น เราต้องทราบก่อนว่า สีของฟันที่เปลี่ยนไป ก็คือสีธรรมชาติของฟันเรานั่นเอง
การฟอกสีฟัน เป็นแต่วิธีการเผยความขาวกระจ่างใสของผิวฟันแท้ ๆ ของเรา ไม่ใช่การนำวัสดุอื่นมาปิด ทับลงบนผิวฟัน ดังนั้น โอกาสที่สีฟันของเราจะคล้ำขึ้นหรือเหลืองขึ้น จึงมีอยู่โดยธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากของเราอย่างสม่ำเสมอ เช่น
หากยังนิยมดื่มชา กาแฟ สูบบุหรี่ ชอบดื่มน้ำโคล่า หรือไวน์แดง หรือยังชอบรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของขมิ้นหรือเครื่องเทศที่มีสีสันอยู่ ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารเหล่านั้น หรืออย่างน้อยควรได้บ้วนปากอย่างแรง ภายหลังจากการรับประทาน การดื่ม หรือการสูบบุหรี่ในทันที
นอกจากนี้ ยังต้องแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง พบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน อย่างน้อยทุก 3 หรือ 6 เดือน สีฟันหลังการฟอกก็จะคงอยู่กับเราได้เป็นปี ๆ (โดยปกติ จะอยู่ที่ 1 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล)
ผลของการสำรวจระดับความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฟอกสีฟันด้วย Cool Light Teeth Whitening
35% ใช้เวลาที่น้อยกว่า – ใช้เวลาเพียง 30 นาที และให้ความเปลี่ยนแปลง 4 – 15 เฉดสี
73% รู้สึกว่าไม่มีอาการเสียวฟันในขณะที่ทำการฟอก และหลังจากการฟอกสีฟันเสร็จสิ้น
100% พึงพอใจกับการฟอกสีฟันด้วย Cool Light Teeth Whitening เมื่อประมวลทั้งผลลัพธ์ เวลา และอาการเสียวฟัน
ข้อควรปฏิบัติหลังการฟอกสีฟัน
– หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มและอาหารที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน แกงไตปลา แกงฮังเล น้ำราดข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ มะตะบะ น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ (แบบครีม ซึ่งมีส่วนผสมของขมิ้น) น้ำพริกขนมจีน น้ำยาขนมจีน น้ำพริกเผา และอาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศที่มีสีเหลือง และสีน้ำตาล ประมาณ 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน
– หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำและเครื่องดื่มที่ร้อนจัด และเย็นจัด เพราะอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ ประมาณ 24 ชั่วโมง
– หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หลังจากฟอกสีฟันประมาณ 48 ชั่วโมง
– แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาจใช้วิธีบ้วนปาก หรือวิธีอื่นในการทำความสะอาดช่องปากหลังจากรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่มีสีทุกครั้ง
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจการฟอกสีฟัน สามรถทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “การฟอกสีฟัน” มากขึ้น ด้วยบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
- ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฟอกสีฟัน
- คำแนะนำหลังการฟอกสีฟัน
- 5 ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน
- ไขข้อข้องใจ: เด็กฟอกสีฟันได้หรือไม่?
ปรึกษาหมอหลิน :
038-416-779
038-416-817
096-305-0765
Line ID : @dppattaya.com
เด็นทัลพอยท์ คลินิกทันตกรรม พัทยา
ค้นหาด้วย Google map นำทางมาถูกแน่นอน
https://goo.gl/MDzxIT (คลิก)
Dental point คลินิก พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องฟัน